Skip to main content
“ตอนนี้เจ้านายซื้อเมล็ดพืชผักสวนครัว พวกพริก แตงกวา หอม ถั่ว มาให้ปลูกหลังร้านกันแล้วค่ะ พวกเราก็รอให้ผักในแปลงที่ลงเมล็ดกันไปโตก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายเราได้อีกทางด้วยค่ะ แล้วก็นอกจากปลูกผักสวนครัวกันเองแล้วนายจ้างก็ซื้อไข่กับบะหมี่สำเร็จรูปมาไว้ให้ด้วยค่ะ เราก็จะกินใช้กันอย่างประหยัดที่สุดให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ค่ะ” บัวแรงงานข้ามชาติชาวลาวจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเลยบอกเล่าถึงสถานการณ์ที่เธอได้รับผลกระทบกับการระบาดของโรคโควิด -19 ให้เราฟัง . บัวเล่าให้เราฟังว่ามาทำงานที่ร้านอาหารแห่งนี้มา 4 ปีแล้ว ก่อนที่จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 เธอได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท แล้วที่พักนายจ้างก็ให้อยู่ฟรีเธอรับผิดชอบจ่ายแค่ค่าน้ำค่าไฟกับค่ากินอยู่ของเธอเองเท่านั้น ทำให้เงิน 300 บาทที่เธอได้ในแต่ละวันสามารถส่งไปดูแลครอบครัวของเธอที่ประเทศลาวได้มากถึง 5,000 บาทต่อเดือน . “ที่บ้านหนูเป็นครอบครัวใหญ่ค่ะอยู่รวมกันหลายคนเลย ก็มีหนูที่หาเงินได้เป็นหลักแล้วส่งไปให้ที่บ้านได้กินได้ใช้กัน คือพี่ๆหลายคนก็ฟังเรื่องของพวกเราแล้วก็คงจะเบื่อเพราะดูเหมือนวิถีของพวกเราเหมือนกันหมดคือทำงานแล้วก็ส่งเงินให้ที่บ้าน แต่มันเป็นแบบนี้จริงๆ ค่ะ ประเทศไทยเหมือนเป็นที่ที่เราสามารถทำงานและมีรายได้ไปดูแลครอบครัวของเราได้จริงๆค่ะ แต่พอมีโควิดมาหนูก็ไม่ได้ส่งเงินไปให้ที่บ้านเลยค่ะ เพราะที่ร้านเขาก็ต้องหยุดตามคำสั่งของรัฐบาล ตอนนี้ที่บ้านก็ส่งข่าวมาว่าแม่ป่วยด้วยก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยค่ะ” บัวเล่าให้เราฟังเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ของครอบครัวของเธอ บัวและเพื่อนในร้านอีก 7 คน ได้รับผลกระทบจากร้านปิดทำการในสถานการณ์โควิด แรกเริ่มเดิมทีเธอและเพื่อนตั้งใจว่าจะกลับไปตั้งหลักที่บ้านแต่ก็กลับไม่ทันคำสั่งปิดด่านพรมแดน . “ตอนนี้หนูเหลือเงินติดตัวอยู่ 2,000 บาทก็เอามาแบ่งหนูวางแผนไว้ว่าจะใช่ไม่เกินอาทิตย์ละ 200 บาทจะได้อยู่ให้ได้นานที่สุดก็เน้นซื้อผักซื้อไข่มาตุนไว้และเน้นซื้อของที่ประหยัดลดราคาเยอะๆและกินน้อยๆเอาค่ะ” บัวบอกเล่าถึงการวางแผนการใช้ชีวิตของเธอให้รอดในสถานการณ์วิกฤตครั้งนี้ . บัวบอกเราให้เราฟังเพิ่มเติมด้วยว่าเธอมีเอกสารการทำงานถูกต้องทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวีซ่าและพาสปอร์ตรวมถึงใบอนุญาตทำงานบัวมีครบทุกอย่างตามขั้นตอนของการจ้างงานที่ถูกกฎหมายในประเทศไทยความหวังเล็กๆของเธอจึงอยากได้รับการดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบ้าง . “ตอนเห็นเขาจ่ายเงินเยียวยาให้พี่ๆคนไทยคนละ 5,000 บาทก็ดีใจนะคะที่เขามีนโยบายนี้ออกมา ก็แอบคิดว่าเราก็เข้ามาอย่างถูกต้องทุกอย่างเป็นแรงงานที่ถูกต้อง ถ้าได้รับการช่วยเหลือบ้างก็คงจะดีอาจจะไม่ใช่ 5,000 บาท แต่ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขามาดูแลเราบ้างคงจะทำให้เราอยู่รอดได้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายค่ะ”บัวกล่าว . “ตอนนี้หนูอยากให้โควิดหายไปไวๆอยากให้สถานการณ์กลับมาเป็นเหมือนเดิมไวๆ หนูอยากมีรายได้ปรกติที่จะดูแลครอบครัวของหนูได้เหมือนเดิมค่ะ” โบกล่าวทิ้งท้าย . จากสถานการณ์ที่นายจ้างจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราวทั้งจากที่รัฐสั่งให้ปิดหรือไม่สามารถดำเนินการต่อได้เนื่องจากปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ทั้งของนายจ้างและแรงงานข้ามชาติโดยตรง ทางเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามขาติ ได้เสนอให้กระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคมพิจารณาให้กิจการที่ต้องปิดตัวเนื่องจากปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 แม้ว่าจะไม่ถูกสั่งปิดโดยรัฐ แต่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการปิดกิจการต่าง ๆ หรือไม่สามารถดำเนินกิจการได้เป็นการปิดกิจการโดยเหตุสุดวิสัย เพื่อให้นายจ้างและแรงงานข้ามชาติเข้าถึงการได้รับการช่วยเหลือ และยังรักษาสภาพการจ้างได้โดยไม่มีการเลิกจ้างแรงงาน ตลอดจนมีมาตรการให้ความช่วยเหลือในสำหรับแรงงานที่เป็นผู้ประกันตนและจ่ายสมทบประกันสังคมมาไม่ถึง 6 เดือนใน 15 เดือน และกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ทำงานในกิจการที่ยกเว้นประกันสังคมและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 . เนื่องจากกลุ่มแรงงานเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือส่วนอื่นของรัฐได้ และให้กรมการจัดหางานพิจารณาปรับเงื่อนไขในการใช้งบกองทุนเพื่อการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ทั้งในส่วนของการดำเนินการของศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว และการจัดสรรงบประมาณเพื่อให้การรองรับช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้าง หรือการปิดกิจการ ตลอดจนปัญหาอื่น ๆ อันเกิดจากสถานการณ์โรควิด สิ่งสำคัญคือรัฐจะต้องมีมาตรการที่ชัดเจนในการจะผ่อนคลายการเปิดดำเนินการกิจการของสถานประกอบการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้นายจ้างและแรงงานข้ามชาติจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปรกติ